ขึ้น สกายวอล์คชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ชมวิวทะเลหมอกแบบ 360 องศา
ล่องเรือชมความงามทะเลสาบฮาลาบาลา เที่ยวชม เกาะทวด พร้อมขอพรรับโชคลาภสุดเฮง
ชมจุดไฮไลท์สุดฮิต สตรีทอาร์ตเบตง, ตู้ไปรษณีย์โบราณ, อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ และป้ายใต้สุดสยาม
ชมอุโมงค์ปิยะมิตร ถ่ายรูปสุดเก๋กับต้นไม้พันปี, ชมความงามสวนหมื่นบุปผา, แช่เท้าบ่อน้ำพุร้อนเบตง
พาชิมเฉาก๊วยเบตง(วุ๊นดำ ก.ม.4) ต้นตำหรับอร่อยระดับตำนาน, ชมหมู่บ้านจุฬาภรณ์10
ลิ้มรส เมนูชื่อดัง ไก่เบตง, เคาหยก และ จิ้มจุ่มปลานิลสายน้ำไหล
08.00 น. : คณะพร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง บริเวณอาคาร 2 ผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินรับบัตรโดยสาร เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที และผู้โดยสารพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก 20 นาที เนื่องจากตั๋วเครื่องบินของคณะเป็นตั๋วชั้นประหยัดพิเศษ ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกันและไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนเครื่องบินได้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขสายการบิน
10.00 น. : ออกเดินทางบินลัดฟ้าสู่ สนามบินเบตง โดย สายการบินนกแอร์ (NokAir) เที่ยวบินที่ DD622 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
11.45 น. : เดินทางถึง สนามบินเบตง ให้ท่านรับสัมภาระให้เรียบร้อย ไกด์นำเที่ยวรอท่านอยู่ด้านนอกที่จุดนัดพบ จากนั้นนำท่านออกเดินทางเข้าสู่อำเภอเบตง โดยรถนำเที่ยว *หากต้องการเลือกที่นั่งบนรถมีค่าบริการเพิ่มเติม* อำเภอเบตง ตั้งอยู่ใต้สุดฝั่งตะวันตกของประเทศไทย มีเขตแดนติดกับประเทศมาเลเซีย โอบล้อมด้วยแนวเทือกเขาสันการาคีรี ด้วยภูมิประเทศแบบนี้จึงทำให้เบตงมีอากาศที่ดี อากาศเย็น และมีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี ดังคำขวัญประจำอำเภอที่ว่า “เมืองในหมอก ดอกไม้งาม ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน” คำว่า เบตง มาจากภาษามลายู “Buluh Betong” หมายถึง “ไม้ไผ่ขนาดใหญ่” หรือที่คนในพื้นที่จะรียกไผ่ชนิดนี้ว่า ไผ่ตง ดังนั้นต้นไผ่ตงจึงกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของอำเภอเบตง
กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน พิเศษ…เมนูจิ้มจุ่มปลานิลสายน้ำไหลชื่อดังของเบตง
บ่าย : นำท่านชม สวนหมื่นบุปผา หรือ สวนดอกไม้เมืองหนาว ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านปิยะมิตร 2 สวนดอกไม้นี้อยู่ท่ามกลางภูเขา สูงจากระดับทะเลปานกลางราว 800 เมตร มีอากาศเย็นสบายตลอดปี เหมาะสมกับการปลูกไม้ดอกเมืองหนาวนานาชนิด สวนนี้เกิดขึ้นจากโครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้พระราชทานนามสวนแห่งนี้ว่า ว่านฮัวหยวน หรือ แปลเป็นไทยว่า สวนหมื่นบุปผา โดยมีการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสร้างอาชีพให้กับกลุ่มผู้พัฒนาชาติไทยในอดีต ในชุมชนและหมู่บ้านบริเวณนี้ อดีตล้วนแล้วแต่เป็นสมาชิก พคม. ที่ประกาศตัววางอาวุธ ในปี 2532 เป็นผู้พัฒนาชาติไทย และเลือกที่จะพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยต่อไป จากนั้นนำท่านชม อุโมงค์ปิยะมิตร ตั้งอยู่บ้านปิยะมิตร 1 ตำบลตะเนาะแมเราะ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ที่ในอดีตเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการทหารของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.) พักผ่อนที่ บ่อน้ำพุร้อนเบตง บ่อน้ำพุร้อนเป็นบ่อน้ำแร่ร้อนตามธรรมชาติขนาดใหญ่ประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย จากนั้นนำท่านแวะชมและถ่ายรูปด้านนอก ศาลาประชาคม ชมหอนาฬิกาโบราณและตู้ไปรษณีย์ยักษ์ที่ได้จำลองแบบมาจากของเดิมที่อยู่ในตัวเมืองเบตง
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ
04.00 น. : นำท่านออกเดินทางไปชม ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ตั้งอยู่ใน ตำบลอัยเยอร์เวง ห่างจากตัวเมืองเบตง 30 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,038 ฟุต จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ขึ้นชื่อในเรื่องของการชมพระอาทิตย์ขึ้น ควบคู่ไปกับการชมทะเลหมอกอันสวยงาม จุดเด่น คือ ไม่ว่าคุณจะมาฤดูไหน หรือช่วงเวลาไหน ท่านก็มีโอกาสที่จะได้เห็นวิวทิวทัศน์เบื้องหน้าที่เป็นทะเลหมอกตลอดทั้งปี ทะเลหมอกที่ก่อตัวจากผืนป่า ฮาลา–บาลา ทะเลสาบเขื่อนบางลาง รวมถึงสามารถมองไปไกลได้ถึงประเทศมาเลเซียเลยทีเดียว นำท่านขึ้นจุดชมวิว Skywalk ชมวิวทิวทัศน์แบบรอบทิศทางแบบ 360 องศา
สมควรแก่เวลานำคณะเดินทางต่อไปยัง สะพานแขวนแตปูซู แวะถ่ายรูปกับสะพานไม้ สะพานแขวนแห่งนี้ใช้งานมาหลายสิบปี วัตถุประสงค์หลักที่สร้างขึ้นนั้น ในอดีตชาวบ้านใช้ขนถ่ายสินค้าทางการเกษตร เช่น ผลไม้ ยางพารา และใช้สัญจรของชาวสวนในพื้นที่ ตัวสะพานมีความกว้าง 1.8 เมตร ยาว 100 เมตร
เช้า : บริการอาหารเช้า ร้านอาหารท้องถิ่น จากนั้นนำท่านสู่ ท่าเรือตาพะเยา นำท่านล่องเรือชมบรรยากาศทะเลสาบฮาลาบาลา และชมวิถีชีวิตของชาวบ้านริมทะเลสาบ นำท่านแวะชม เกาะทวด เกาะทวด ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลสาบฮาลาบาลา หรือ กลางเขื่อนบางลาง จ.ยะลา โดยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ ส่วนใหญ่ จะเดินทางเพื่อมากราบไหว้ ขอพรจากทวดบูเกี๊ยะ และได้โชคลาภจากการขอพร
กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน
บ่าย : นำท่านเที่ยวชม บ้านจุฬาภรณ์ฯ 10 หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่มีศักยภาพของเบตง จากหมู่บ้านนักสู้ สู่แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ปัจจุบันบ้านจุฬาภรณ์ฯ 10 ถือเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชุมชนอันโดดเด่นของอำเภอเบตง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีน-มาเลเซีย หมู่บ้านแห่งนี้มีสโลแกนท่องเที่ยวว่า “รำลึกประวัติศาสตร์ กลับคืนสู่ธรรมชาติ” ตามอัตลักษณ์-วิถีความเป็นมาของชุมชนที่โดดเด่นไปด้วย แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติกับแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ จนได้เวลาพอสมควร นำคณะเดินทางกลับสู่ตัวเมืองเบตง เข้าสู่โรงแรมที่พัก ให้ท่านอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัยก่อนรับประทานอาหารเย็น
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ เมนูพิเศษ ไก่เบตง, เคาหยก และ ผักน้ำผัดน้ำมันหอย
เช้า : บริการอาหารเช้าห้องอาหารของโรงแรม หรือ ร้านติ่มซำ
จากนั้นเดินทางไปยัง วัดพุทธาธิวาส วัดคู่เมืองเบตง เดิมชื่อวัดเบตง ก่อตั้งเมื่อ เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2460 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย พื้นที่ตั้งวัดเป็นเนินเขาสูงเอียงลาดลงไปทางทิศเหนือ จัดแบ่งพื้นที่วัดออกเป็นชั้นทั้งหมด 5 ชั้น ตั้งเด่นสง่าอยู่บนเนินเขามีพระธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศตั้งโดดเด่นมองเห็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์โดยในองค์มหาธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นนำท่านสู่ วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง หรือวัดกวนอิมตั้งอยู่บริเวณเนินเขาของสวนสุดสยาม วัดแห่งนี้เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพสำคัญๆหลายองค์
จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยังบริเวณพรมแดน ไทย – มาเล ฯ จุดผ่านแดนถาวรที่เชื่อมระหว่างสองประเทศ ถ่ายรูปกับ ป้ายใต้สุดสยาม ถือเป็นจุดเช็คอินไฮไลท์อีกหนึ่งจุดว่าท่านได้มาเยือนถึงแนวเขตแดนใต้สุดของประเทศไทย นำท่านแวะจุดเช็คอินสุดฮิต ให้ท่านอิสระถ่ายรูป ป้ายโอเคเบตง
กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน
บ่าย : จากนั้นนำคณะเดินชมจุดเด่นที่ได้รับความนิยมของตัวเมืองเบตงได้แก่ สตรีทอาร์ท หรือ ถนนศิลปะ งานศิลปะที่สะท้อนเรื่องราวและวิถีชีวิตของความเป็นเบตงได้อย่างดี จุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ผลงานที่งดงามดังกล่าว เกิดจากทาง อ.เบตง จ.ยะลา ได้มีการจัดงาน 111 ปี เล่าขานตำนานเมืองเบตง ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสร้างหมุดหมายที่แสดงออกถึงวิถีชีวิตของชาวเบตงและ สร้างจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ วงเวียนหอนาฬิกาเบตง และ ตู้ไปรษณีย์โบราณ ในส่วนของตัวหอนาฬิกาสร้างขึ้นด้วยหินอ่อนขาวที่มีอยู่มากในจังหวัดยะลา หอนาฬิกาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองหรือจะเรียกว่าเป็นสะดือของเมืองเบตงก็ว่าได้ ในเทศกาลต่าง ๆ ที่จัดขึ้น มักจะใช้บริเวณหอนาฬิกานี้เป็นจุดนัดหมายในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ และใกล้ๆ กันนั้นที่อยู่คู่เมืองเบตงมาช้านาน คือ ตู้ไปรษณีย์โบราณ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2482 สูง 2.9 เมตร โดยผู้ที่ดำริแนวคิดคือ นายสงวน จิรจินดา อดีตนายไปรษณีย์โทรเลขเบตง ที่ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเบตง คนแรก ในปัจจุบันนี้ตู้ไปรษณีย์แห่งนี้ยังเปิดใช้งานได้ และนักท่องเที่ยวมักจะซื้อโปสการ์ด เขียนและส่งจดหมายถึงญาติคนรัก หรือส่งถึงตัวเอง เก็บไว้เป็นความทรงจำ
จากนั้นนำท่านชม อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อุโมงค์ขนาดใหญ่ที่เจาะผ่านภูเขาเพื่อเชื่อมต่อส่วนขยายของเมืองไปอีกฟากของตัวเมืองเป็นอุโมงค์ที่ผู้คนสามารถใช้สัญจรไปมาด้วยรถยนต์แห่งแรกของประเทศไทย
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ
เช้า : บริการอาหารเช้าห้องอาหารของโรงแรม หรือ ร้านติ่มซำ
จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง ร้านของฝากเบตง ให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากจากท้องถิ่น เช่น หลินจือเบตง, บัวหิมะเบตง, ชาก๊กโป่ว และชาต้าลี่หวัง เป็นต้น จากนั้นนำท่านสู่ ร้านวุ้นดำ กม.4 ต้นตำหรับอร่อยระดับตำนาน พิเศษ…เสิร์ฟเฉาก๊วยท่านละ 1 ถ้วย เฉาก๊วยใช้วิธีทำแบบดั้งเดิม ต้มเคี่ยวหญ้าเฉาก๊วยด้วยเตาฟืน ซึ่งจะทำให้มีกลิ่นหอมและมากไปด้วยสรรพคุณทางยา ให้ท่านได้อิสระซื้อเป็นของฝาก จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินเบตง
12.15 น. : ออกเดินทางบินลัดฟ้ากลับสู่ สนามบินดอนเมือง โดย สายการบินนกแอร์ (NokAir) เที่ยวบินที่ DD623 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
14.00 น. : เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ
- ราคานี้รวม
- ราคานี้ไม่รวม
- หมายเหตุ
- ค่าบัตรโดยสารชั้นประหยัดพิเศษเดินทางไปกลับตามเส้นทางและวันที่ระบุในรายการ
- ค่าน้ำหนักสัมภาระถือขึ้นเครื่อง 7 กิโลกรัมต่อท่าน ต่อเที่ยวบิน
- ค่าโหลดกระเป๋าสัมภาระ 10 กิโลกรัม 1 ชิ้น ต่อท่าน ต่อเที่ยวบิน ไป-กลับ
- ค่ารถนำเที่ยวตามรายการที่ระบุ
- ค่าที่พักระดับ 4 ดาว เบตง 2 คืน พักห้องละ 2 ท่าน หรือ 3 ท่านเสริมเตียง (กรณีมาไม่ครบคู่และไม่ต้องการเพิ่มเงินพักห้องเดี่ยว)
- ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ (ทางบริษัทสงวนสิทธิในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์)
- ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามที่ระบุในรายการ
- ค่าประกันชีวิตกรณีอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทาง คุ้มครองในวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลกรณีอุบัติเหตุในวงเงินไม่เกิน ท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
- ค่ามัคคุเทศก์ผู้ชำนาญเส้นทาง
- ค่าอาหารบนเครื่องบิน, ค่าเลือกที่นั่งบนเครื่องบิน, ค่าเลือกที่นั่งบนรถนำเที่ยว
- ค่าบริการโหลดกระเป๋าส่วนเกิน 10 กิโลกรัม 1 ชิ้น
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าเครื่องดื่มและค่าอาหารที่สั่งเพิ่มเอง, ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษนอกรายการ ค่าซักรีด, ฯลฯ
- ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ, โรคระบาด, การประท้วง, การจลาจล, การนัดหยุดงาน, การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
- ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถ 300 บาท ต่อท่าน ต่อทริป
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
เงื่อนไขการยกเลิก
***เงื่อนไขการยกเลิกทัวร์เป็นไปตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์***
- แจ้งยกเลิกการเดินทางก่อน 30 วัน คืนเงินค่าทัวร์ โดยหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ได้แก่ ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน 2,500 บาท
- แจ้งยกเลิกก่อนการเดินทางมากกว่า 15 วันแต่ไม่ถึง 30 วัน คืนเงินค่าทัวร์ 50% โดยหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ได้แก่ ค่ามัดจำรถบัส , รถตู้ ,ค่ามัดจำโรงแรมที่พัก, ค่ามัดจำร้านอาหาร, ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ และ ค่าบริการ จำนวน 5,000 บาท
- แจ้งยกเลิกการเดินทางน้อยกว่า 15 วัน ขอสงวนสิทธิในการไม่คืนเงินเต็มจำนวน
**ในกรณีจองทัวร์ตรงวันหยุดเทศกาล, วันหยุดนักขัตฤกษ์ ทางบริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น**